วัตฟอร์ด 1 – 4 แมนฯ ยูไนเต็ด

ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม วิลล่า พาร์ค, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 37,425 คน
รายการ เอฟเอ คัพ
เวลา 23.30 น. วันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2550
ผู้ตัดสิน โฮเวิร์ด เวบบ์
แล้วเวย์น รูนี่ย์ ก็จุดประกายให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะวัตฟอร์ด ไปได้ 1 – 4 ในฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปได้
โดยเวย์น รูนี่ย์ ทำประตูแรกให้ทีมด้วยลูกยิงสุดสวยจากระยะ 20 หลา ตั้งแต่ 7 นาทีแรกของ จากนั้นวัตฟอร์ด ก็ตามตีเสมอได้จากลูกยิงของ ฮาเมอร์ บูอัซซ่า ในนาทีที่ 26 แต่อีก 2 นาทีถัดมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ทำประตูที่ 2 ให้แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำอีกครั้ง และในครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้อีก 2 ประตูจากเวย์น รูนี่ย์ ในนาทีที่ 66 และจากลูกชิพของ คีแรน ริชาร์ดสัน ในนาทีที่ 82
แม้ว่าดูจากสกอร์แล้วจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่จากฟอร์มการเล่นก็ถือว่าวัตฟอร์ด เล่นได้ดีทีเดียว จนกระทั่งพวกเขาเสียประตูที่ 3 และ 4 จึงทำให้หมดโอกาสกลับเข้าสู่เกม
แต่แม้แมนฯ ยูไนเต็ด จะเอาชนะมาได้อย่างสวยงาม แต่ก็ต้องพบกับปัญหาเมื่อในครึ่งแรก ริโอ เฟอร์ดินานด์ มีอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบจนต้องเปลี่ยนตัวออก ซึ่งนั่นก็ทำให้ปัญหานักเตะบาดเจ็บที่มีอยู่แล้วของทีมเพิ่มขึ้นมาให้ เซอร์ อเล็กซ์ หนักใจอีก
เริ่มเกมทั้งสองผ่านต่างก็พยายามบุกเข้าใส่กัน แต่แล้วเพียงแค่ 7 นาทีแรกแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูขึ้นนำจากลูกเปิดของไมเคิล คาร์ริค ไปยังอลัน สมิธ ซึ่งปล่อยบอลต่อไปให้เวย์น รูนี่ย์ จับบอลก่อนหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงด้วยเท้าขวาจากระยะ 20 หลา บอลผ่าน ริชาร์ด ลี เข้าประตูไปอย่างสวยงาม แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1 – 0
หลังจากได้ประตูขึ้นนำแมนฯ ยูไนเต็ด ก็พยายามครองเกมและบุกเพื่อทำประตูที่ 2 แต่ทางด้านวัตฟอร์ด เองก็บุกขึ้นมาได้บ้างและจากจังหวะที่ได้บุกขึ้นมานี้ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่าง ฟาน เดอร์ ซาร์ และคาร์ไลส์ ทำให้ผู้รักษาประตูทีมปีศาจแดงได้รับบาดเจ็บที่จมูกต้องรับการปฐมพยาบาลอยู่นาน
และเมื่อกลับมาเริ่มเกมอีกครั้งในนาทีที่ 26 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เสียประตูโดยทันทีเมื่อ ทอมมี่ สมิธ โหม่งบอลต่อให้ บูอัซซ่า ได้ยิงบอลผ่าน กาเบรียล ไฮน์เซ่ ชนคานด้านล่าง บอลกระดอนเข้าเส้นประตูไปอย่างที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ หมดสิทธิ์ป้องกัน วัตฟอร์ด ตามตีเสมอเป็น 1 – 1
แต่ช่วงเวลาแห่งการฉลองประตูตีเสมอของวัตฟอร์ด ก็สั้นนัก เมื่อผ่านไปได้เพียง 2 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูที่ 2 เมื่อเวย์น รูนี่ย์ เปิดบอลเข้ากลางให้โรนัลโด้ ได้ยิงจากระยะเพียง 6 หลาเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2 – 1
แต่แล้วก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องเหนื่อยใจ เมื่อ เฟอร์ดินานด์ แสดงอาการว่ามีการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบและไม่สามารถเล่นต่อได้ เซอร์ อเล็กซ์ จึงส่ง ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ลงเล่นแทน โดยปรับให้ ไฮน์เซ่ ยืนเป็นเซ็นเตอร์คู่กับบราวน์ และให้ เอฟร่า กลับไปเล่นทางฝั่งซ้ายและให้ เฟล็ตเชอร์ เล่นเป็นแบ็คขวา
จากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด ก็เกือบได้ประตูที่ 3 ในช่วงก่อนหมดครึ่งแรกจากลูกยิงสุดสวยของเวย์น รูนี่ย์ แต่ริชาร์ด ลี ก็ป้องกันไว้ได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน
เริ่มเกมครึ่งหลังวัตฟอร์ด ซึ่งมีแฟนๆ เข้ามาเชียร์มากมายในสนามด้วยเสื้อสีเหลืองสด เริ่มเกมได้ดีกว่าและเริ่มบุกได้มากขึ้น บูอัซซ่า ได้ยิงจากระยะใกล้ แต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ทั้งสองทีมผลัดกันบุกอยู่ตลอดเวลา แต่แล้วในนาทีที่ 66 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูที่ 3 จากการทำประตูของเวย์น รูนี่ย์ เมื่อวัตฟอร์ด เปิดโอกาสให้สมิธมีพื้นที่ในการเล่นมาก และเขาก็ได้จังหวะเปิดบอลอย่างฉลาดให้ เวย์น รูนี่ย์ แปบอลเข้าประตูไปสบายๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 3 – 1
หลังจากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด ก็เริ่มพักผู้เล่นหลักอย่างโรนัลโด้ โดยส่ง ริชาร์ดสัน ลงเล่นแทน และหลังจากลงเล่นได้เพียง 5 นาที ริชาร์ดสัน ก็ทำประตูที่ 4 เป็นประตูปิดท้ายให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในนาทีที่ 82 เมื่อเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สมิธเปิดลูกสุดสวยให้กับเพื่อนร่วมทีม และ ริชาร์ดสัน ก็ชิพบอลข้าม ลี เข้าประตูไป
จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะวัตฟอร์ด ไปได้ 4 – 1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ไปได้เป็นครั้งที่ 18 ของสโมสร และรอพบกับผู้ชนะระหว่างแบล็คเบิร์น และเชลซี ที่จะลงแข่งขันกันในวันอาทิตย์นี้ (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
วัตฟอร์ด
ริชาร์ด ลี 16
อาเดรียน มารีอัปปา 23
คลาร์ก คาร์ไลส์ 5
จอร์แดน สจวร์ต 3
เจย์ เดอเมอริต 6 ( น. 80)
เจมส์ แชมเบอร์ส 2
เกวิน มาห์น 8
เดเมียน ฟรานซิส 7
ทอมมี่ สมิธ 29
ฮาเมอร์ บูอัซซ่า 18 ( น. 26)
ทามัส พริสกิ้น 24
สำรอง
สกอตต์ ลอช 33
ลอยด์ ดอยลี่ย์ 12 น. 88 อาเดรียน มารีอัปปา 23
อัลฮัสสัน บังกูร่า 20
มาร์ลอน คิง 9 น. 78 ทามัส พริสกิ้น 24
สตีฟ แกบบ้า 15 น. 70 เจมส์ แชมเบอร์ส 2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
ปาทริซ เอฟร่า 3
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
เวส บราวน์ 6
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น. 28)
พอล สโคลส์ 18
ไมเคิล คาร์ริค 16 ( น. 75)
ไรอัน กิ๊กส์ 11
อลัน สมิธ 14
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 7, 66)( น. 53)

สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
เคร็ก แคธคาร์ท 32
คีแรน ริชาร์ดสัน 23 ( น. 82) น. 77 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24 น. 40 ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20 น. 83 ไรอัน กิ๊กส์ 11
สถิติของเกม
วัตฟอร์ด ประตู 1, ยิงตรงกรอบ 2, ยิงหลุดกรอบ 7, โดนบล็อค 5, เตะมุม 3, ฟาวล์ 16, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 1, การครองบอล 40.5%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 4, ยิงตรงกรอบ 7, ยิงหลุดกรอบ 7, โดนบล็อค 4, เตะมุม 10, ฟาวล์ 11, ใบเหลือง 2, การครองบอล 59.5%
คะแนนความสามารถ
วัตฟอร์ด ริชาร์ด ลี 7, อาเดรียน มารีอัปปา 5, คลาร์ก คาร์ไลส์ 6, จอร์แดน สจวร์ต 6, เจย์ เดอเมอริต 7, เจมส์ แชมเบอร์ส 6, เกวิน มาห์น 7, เดเมียน ฟรานซิส 6, ทอมมี่ สมิธ 7, ฮาเมอร์ บูอัซซ่า 7, ทามัส พริสกิ้น 5, ลอยด์ ดอยลี่ย์ (สำรอง) 5, มาร์ลอน คิง (สำรอง) 5, สตีฟ แกบบ้า (สำรอง) 5
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, ปาทริซ เอฟร่า 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, เวส บราวน์ 7, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 6, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7, พอล สโคลส์ 6, ไมเคิล คาร์ริค 7, ไรอัน กิ๊กส์ 6, อลัน สมิธ 7, เวย์น รูนี่ย์ 8, คีแรน ริชาร์ดสัน (สำรอง) 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ (สำรอง) 6, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (สำรอง) 5
Por

Related Posts

Copyright © 2024 Allotoutravo. All Right Reserved.