ถ่ายทอดสด CTH Stadium 1
ดูออนไลน์ Live TV
ทายผล เชลซี พบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์ (ตัดสิน 15 นัด ใบเหลือง 65 ไม่มีใบแดง)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ไมค์ มัลลาร์กี้ย์, สกอตต์ เลดเจอร์
ผู้ตัดสินที่สี่ ลี โปรเบิร์ต
สำหรับเรื่องราวระหว่างการเป็นศัตรูกันระหว่าง โชเซ่ มูรินโญ่ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นถือว่ามีความเป็นมาอย่างยาวนาน เริ่มต้นกันที่ฉากแรก เขาแสดงอาการดีใจราวกับคนบ้าที่ข้างสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากที่ คอสตินญ่า ยิงประตูในนาทีสุดท้ายให้เอฟซี ปอร์โต้ ซึ่งก็ทำให้ทีมของกุนซือชาวโปรตุกีสเขี่ยทีมปีศาจแดงตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
ฉากต่อมาเกิดขึ้นในอีก 5 เดือนให้หลัง มูรินโญ่ก้าวเข้ามายังวงการฟุตบอลอังกฤษ และในฤดูกาลนั้นก็จบลงด้วยการคว้าแชมป์ของเชลซี
หลังจากที่พาทีมสิงโตน้ำเงินครามครองความยิ่งใหญ่อยู่พักหนึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็กลับมาผงาดในพรีเมียร์ ลีกได้อีกครั้ง และผู้จัดการทีมเจ้าของฉายาเดอะ สเปเชี่ยล วัน ก็หันไปคุมทีมอินเตอร์ มิลาน จากนั้นก็มาเป็นเรอัล มาดริด
โดยรวมแล้วกับทั้ง 4 สโมสร มูรินโญ่ได้คุมทีมลงเตะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 17 ครั้ง และเขาก็แพ้ให้กับทีมปีศาจแดงเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นเอง
ครั้งสุดท้ายนั้นผลการแข่งขันเป็นไปในแบบที่มูรินโญ่ต้องการ เกมเมื่อเดือนสิงหาคมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด จบลงด้วยผลเสมอตามที่เขาได้วางแผนมาเน้นสกอร์นี้โดยเฉพาะ เขาทำให้แนวรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เงียบตลอดเกม และนั่นก็เป็นที่มาของการเสมอกันไปแบบไร้สกอร์
ดูเหมือนว่าแผนการทำทีมในฤดูกาลนี้ของเขาจะเป็นการเน้นเก็บชัยชนะในบ้าน และออกไปคว้าผลเสมอให้ได้ยามออกไปเล่นเป็นทีมเยือน ซึ่งก็ถือว่ามันได้ผล เชลซีบุกไปยันเสมออาร์เซนอลมาได้ 0-0 เช่นกันในเกมก่อนวันคริสต์มาส โดยก่อนหน้านี้ก็เคยคว้าผลเสมอที่บ้านของสเปอร์สมาได้แล้ว ทั้งที่เหลือตัวผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน ส่วนในเกมเหย้า พวกเขาเอาชนะได้ทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ จนถึงขณะนี้ก็นับว่าทำได้ยอดเยี่ยมทีเดียว
แล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะหยุดยั้งแผนการที่ดีของพวกเขาได้หรือเปล่า? หากว่าทำได้จริง มันคงจะเป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุดที่ เดวิด มอยส์ เคยทำให้กับทีมปีศาจแดงเลย ผู้คนจะลืมเกมอันยอดเยี่ยมที่บุกถล่มเลเวอร์คูเซ่นเละเทะกันไปในทันที
แต่หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ คะแนนของพวกเขาก็จะถูกเชลซีทิ้งห่างออกไปอีกเป็น 12 แต้ม โดยที่เหลือเกมให้ลงเล่นอีก 16 นัด ซึ่งนั่นก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นฉากสุดท้ายในการลุ้นไล่ล่าแชมป์ของทีมปีศาจแดงเลย
แม้กระทั่งชัยชนะก็ยังไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าทีมแชมป์เก่าพร้อมจะรักษาแชมป์แล้ว แต่อย่างน้อยมันก็จะเป็นการเรียกความมั่นใจให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งเก็บชัยชนะมาได้ 5 เกม จากการลงเตะในลีก 6 เกมหลัง และก็เชื่อกันว่าเป้าหมายของพวกเขาในตอนนี้คงจะเป็นการทำอันดับติดท็อป 4 ให้ได้ การจะไปให้ได้ถึงเป้าหมายนั้น พวกเขาก็จำเป็นจะต้องเก็บชัยชนะให้ได้อย่างต่อเนื่อง และเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นี้ก็เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมเหลือเกินในการเริ่มต้น
การพบกันของทั้งสองทีม
– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้มากกว่าเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเอาชนะได้ 30 ครั้ง ในขณะที่เชลซีทำได้ 22 ครั้ง
– ครั้งล่าสุดของการพบกันที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายชนะไปด้วยสกอร์ 3-2 โดยที่เชลซีเหลือตัวผู้เล่นแค่ 9 คนเมื่อเดือนตุลาคม 2012
– โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่เคยแพ้ในเกมที่เปิดบ้านเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาก่อนเลยในฐานะผู้จัดการทีมเชลซี
เชลซี
ผู้จัดการทีม โชเซ่ มูรินโญ่
โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมเชลซีได้ออกมาบอกว่า เนมานย่า มาติช นักเตะตัวใหม่หน้าเก่าเจ้าของค่าตัว 21 ล้านปอนด์จะยังไม่ลงสนามในเกมนี้ ขณะที่มิดฟิลด์อย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด อาจหายจากอาการเจ็บน่องกลับมาลงเล่นได้ แต่สำหรับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช นั้นจะไม่มีชื่อในเกมนี้แน่นอน เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า
– โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังไล่ล่าชัยชนะนัดที่ 100 ในพรีเมียร์ ลีก ในการคุมทีมของเขา
– ทีมสิงห์บลูส์ชนะ 5 และเสมอ 1 จากการลงเตะ 6 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ ลีก โดยเสียประตูเพียงแค่ 2 ลูกเท่านั้น
– เชลซีเก็บชัยชนะหลังจากตามหลังไปก่อนได้ถึง 4 ครั้งในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้
– เป็นเวลานานถึง 19 เกมแล้ว หลังจากที่เชลซีแพ้ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเป็นการแพ้ต่อควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส 0-1 เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2013
– เอเด็น อาซาร์ ยิงได้ 9 ประตู ทาบสถิติเก่าที่ทำได้ตลอดฤดูกาลที่แล้วไปเรียบร้อย
– ฆวน มาต้า ยิงประตูได้ตลอด 3 เกมหลังที่เขาได้ลงเล่นเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ดาวซัลโว เอเด็น อาซาร์ 9 ประตู, ออสก้าร์ 6 ประตู, แฟร้งค์ แลมพาร์ด 4 ประตู, เฟอร์นานโด ตอร์เรส 4 ประตู, ซามูเอล เอโต้ 3 ประตู, อังเดร ชูร์เล่ 3 ประตู
ผู้เล่นบาดเจ็บ แฟร้งค์ แลมพาร์ด (สะโพก), บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (เข่า)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์
ทางด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น เดวิด มอยส์ จะไม่ได้ใช้งานคู่หูในแดนหน้าอย่าง เวย์น รูนี่ย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แน่นอน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบและต้นขาตามลำดับ ขณะที่ ฟาบิโอ ดา ซิลวา นั้นลงเล่นไม่ได้แน่นอน เนื่องจากยังติดโทษแบนจากใบแดงอยู่
– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ใครมาแล้วในเกมเยือนถึง 7 เกมติดต่อกัน (ชนะ 5 เสมอ 2)
– พวกเขาแพ้ถึง 6 ครั้ง จากการเตะ 21 เกมแรกในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2001/02
– ทีมของ เดวิด มอยส์ เก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น จากการเตะ 10 เกมกับทีมครึ่งบนของตารางในฤดูกาลนี้ (ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 5)
– ทีมปีศาจแดงเก็บได้ 10 คะแนนจากสถานการณ์ตามหลัง สถิตินี้มีเพียงแค่เชลซีเท่านั้นที่ทำได้ดีกว่า (14 คะแนน)
– แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทั้ง 3 เกมหลังในพรีเมียร์ ลีก โดยในฤดูกาลนี้เข้าทำประตูในลีกไปแล้วทั้งหมด 6 ลูก
ดาวซัลโว เวย์น รูนี่ย์ 9 ประตู, แดนนี่ เวลเบ็ค 8 ประตู, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 7 ประตู, แอดนาน ยานูซาย 3 ประตู, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 2
ผู้เล่นบาดเจ็บ ปาทริซ เอฟร่า (เข่า), จอนนี่ อีแวนส์ (หลัง), ริโอ เฟอร์ดินานด์ (เข่า), เวย์น รูนี่ย์ (ขาหนีบ), แอชลี่ย์ ยัง (ไหล่), ฟิล โจนส์ (เข่า), มารูยาน เฟลไลนี่ (นิ้ว/ข้อมือ), หลุยส์ นานี่ (เอ็นร้อยหวาย), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (สะโพก)
การพบกันในพรีเมียร์ ลีก 10 นัดล่าสุด
27 สิงหาคม 2013 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0 – 0 เชลซี
6 พฤษภาคม 2013 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0 – 1 เชลซี
28 ตุลาคม 2012 : เชลซี 2 – 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
5 กุมภาพันธ์ 2012 : เชลซี 3 – 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
18 กันยายน 2011 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 1 เชลซี
8 พฤษภาคม 2011 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 1 เชลซี
1 มีนาคม 2011 : เชลซี 2 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
3 เมษายน 2010 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 2 เชลซี
8 พฤศจิกายน 2009 : เชลซี 1 – 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
11 มกราคม 2009 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 0 เชลซี
SiR KeaNo, Por